New Generation And New Machaine
September 4, 2016
เครื่องตัด Co2 เลเซอร์ VS เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์ (Fiber Laser)
ในปัจจุบันเครื่องตัด 2D เลเซอร์ในตลาด สำหรับตัดแผ่นเหล็กหรือแผ่นสแตนเลสมีอยู่ 2 แบบ คือ
เครื่องตัดเลเซอร์แบบ Co2 และ เครื่องตัดเลเซอร์แบบไฟเบอร์ (Fiber) โดย 2 เครื่องนี้จะใช้
วัสดุตัวกำเนิดพลังแสงเลเซอร์ (Active media) แตกต่างกัน คือ เครื่องตัดเลเซอร์แบบ Co2 นั้นใช้แก๊ส
เป็นตัวตั้งต้นในการเกิดแสงเลเซอร์คือแก๊ส (He (66%) N 2 (29%) CO 2 (5%)) ส่วนเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์
(Fiber) จะใช้เป็นผลึกของแข็ง Yb:YAG เป็นตัวตั้งต้นในการเกิดแสงเลเซอร์
โดยแสงเลเซอร์ที่ได้จากทั้งสองจะมีความยาวคลื่น (Wavelength) ที่แตกต่างกันคือ
Co2 = 10.6µm และ Fiber = 1.03µmแสงเลเซอร์ทั้งสองแบบนี้ มีข้อเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกัน
1. ในเรื่องของการตัดชิ้นงาน
- Co2 สามารถตัดงานออกมาได้สวยทั้งเหล็กและสแตนเลส
- Fiber จะตัดเหล็กได้คุณภาพเทียบเท่า Co2 แต่จะตัดสแตนเลสที่มีความหนากว่า 6 mm.ได้ไม่สวยเท่า
Co2 แต่ถ้าสแตนเลสที่ความหนา 1mm. – 5mm. จะตัดได้สวยเทียบเท่า Co2 และมี Cutting Speed
ที่เร็วกว่า 2-5 เท่า
- Fiber สามารถตัดทองแดงและทองเหลืองได้ เพราะมีความยาวคลืนที่ละเอียดกว่า
สามารถแทรกเข้าวัสดุทองแดงทองและเหลืองได้ ซึ่ง Co2 ทำไม่ได้
2. ในเรื่องการซ่อมบำรุง
- เนื่องจาก Co2 ใช้กระจกในการส่งลำแสงเพื่อไปตัดชิ้นงาน
ดังนั้นจึงทำให้การดูแลความสะอาดของกระจกและมุมในการส่งลำแสงต้องไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะทุกองค์ประกอบส่งผลต่อคุณภาพลำแสงเพื่อมาตัดชิ้นงาน แต่ถ้าเป็น Fiber Laser เราจะใช้สาย
Fiber Optic ในการส่งลำแสง จึงทำให้การดูแลรักษาค่อนข้างง่ายและเสถียรกว่า
เรื่องฝุ่นที่จะเข้าไปลดประสิทธิภาพลำแสงเลเซอร์ก็จะไม่เกิดขึ้น
- Laser Co2 นั้นจะมีระบบ Resonator ที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าและมีระบบ Control หลายส่วน
แต่สำหรับ Laser Fiber จะมีระบบที่เล็กกว่าทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า
3. ในเรื่องการสิ้นเปลือง
- Laser Fiber มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าในการก่อให้เกิดแสงเลเซอร์น้อยกว่า Laser Co2 ประมาณ
50%
- Laser Co2 ต้องมีการเติม Laser Gas เข้าไปในระบบตลอด แต่แบบ Laser Fiber
จะไม่มีการสิ้นเปลืองในส่วนนี้ และอายุการใช้งานของ crystal ของFiber Laser มากกว่า 10ปี